บ็อบ ไอเกอร์ ซีอีโอ ดิสนีย์ ชื่อนี้อาจจะโด่งดังในต่างประเทศเป็นอย่างมาก แต่ในประเทศไทยนั้นเรารู้จักเขากันอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในหมู่ของแฟน ๆ ภาพยนตร์ Spider-Man จากการเป็นหัวหอกสำคัญที่ยังคงทำให้ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ของ ทอม ฮอลแลนด์ ยังคงอยู่ใน MCU ต่อไป
แม้ว่าในตอนนี้ทางดิสนีย์จะมีมติให้ บ็อบ ชาเปค อดีตผู้บริหารสวนสนุกในเครือ ดิสนีย์
มานั่งแท่นแทนเขาแล้ว แต่บ็อบ ไอเกอร์ จะยังคงทำหน้าที่ในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ไปจนถึงปี 2021 และทั้ง 2 คนคือหนึ่งในบรรดาผู้บริหารที่ได้รับเงินเดือนมากที่สุดในโลก อย่างที่ทุกคนทราบดีว่าในตอนนี้การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 นั้นได้สร้างผลกระทบไปทั่วทุกวงการ และทั่วทุกมุมโลก ทาง Walt Disney เองก็เช่นกัน
พวกเขาตัดสินใจปิดสวนสนุกของตนเองลง และตัดสินใจเลื่อนภาพยนตร์ในเครือที่กำลังจะเข้าฉายนั้นออกไปอย่างไม่มีกำหนด ท่ามกลางการต่อสู้ที่ยากลำบากนี้ บ็อบ ไอเกอร์ และ บ็อบ ชาเปค ก็ได้ตัดสินใจที่จะลดเงินเดือนตัวเองกว่า 50% เพื่อนำเงินจำนวนนั้นไปช่วยเหลือให้บริษัทสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งบ็อบ ชาเปคได้ส่งแถลงการณ์ผ่านอีเมลให้กับพนักงานในบริษัทด้วยว่า
“ในช่วงเวลาที่เราต้องหาหนทางเพื่อข้ามผ่านน่านน้ำที่ไม่เคยปรากฎบนแผนที่นี้ เราอยากไหว้วอนขอร้องทุกคน เรากำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายและเราหวังอย่างยิ่งว่าพวกคุณจะร่วมมือช่วยเหลือกันดั่งเช่นที่เป็นมาเสมอ การอุทิศตนและการปรับตัวร่วมกันในช่วงเวลายากลำบากนี้เป็นแรงบันดาลใจอย่างยิ่งสำหรับผมที่ทำให้เห็นว่าเราจะสามารถผ่านวิกฤตนี้ไปได้ และแข็งแกร่งยิ่งกว่าที่ผ่านมา ดั่งเช่นที่ประวัติศาสตร์บริษัทของเราผ่านกันมาได้เสมอ”
นอกจากทั้ง 2 คนนี้แล้ว พวกเขายังตัดสินใจลดเงินเดือนของบรรดาพนักงานในระดับผู้บริหาร โดยแบ่งเป็น ตำแหน่งรองประธานจะลดเงินเดือนลง 20%, รองประธานอาวุโสจะลดเงินเดือนลง 25% และรองประธานบริหารจะถูกปรับลดเงินเดือนที่ 30% โดยมีผลทันทีในวันที่ 5 เมษายนนี้
นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งมาตรการสำคัญของบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการบันเทิงอย่าง Walt Disney ที่ออกมาเคลื่อนไหว แสดงให้เห็นผลกระทบของปัญหาการแพร่ระบาดของโรคร้ายในครั้งนี้ ที่มันไม่ได้สร้างผลกระทบแค่เพียงเรื่องของสุขภาพเท่านั้น แต่มันได้สร้างผลกระทบไปทั่วทุกมุมของวิถีชีวิตการปฏิสัมพันธ์ของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม เราเชื่อว่าหากร่วมมือกัน ไม่ว่าวิกฤตจะร้ายแรงเพียงไหน เราจะสามารถก้าวผ่านมันไป และเข้มแข็งขึ้นอีกครั้งได้อย่างแน่นอน
ซึ่งทางจังหวัดอาเจะห์เคยประกาศว่าพวกเขาจะยุติการเฆี่ยนผู้กระทำผิดต่อหน้าสาธารณชน และลงโทษภายในเรือนจำแทน อย่างไรก็ตามจำนวนการลงโทษต่อหน้าฝูงชนกลับเพิ่มขึ้น สวนทางกับที่พวกเขาเคยให้คำมั่นสัญญาเอาไว้
เจ้าชายแฮร์รี่-เมแกน โพสต์ลา หลังยุติบทบาทสมาชิกราชวงศ์อังกฤษ
วันที่ 31 มีนาคม 63 เจ้าชายแฮร์รี่และเมแกน ดยุคและดัชเชสแห่งซัสเซกซ์ ได้ออกมาโพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรม Sussex Royal เพื่อเป็นการอำลาครั้งสุดท้ายต่อการเป็นสมาชิกชั้นสูงของราชวงศ์อังกฤษ ซึ่งมีผลบังคับอย่างเป็นทางการหลังผ่านพ้นวันที่ 31 มีนาคม 63 เป็นต้นไป โดยมีข้อความว่า
“ในขณะที่เราทุกคนรู้สึกว่า โลกในตอนนี้ดูเหมือนจะเปราะบางเป็นพิเศษ แต่เรามั่นใจว่ามนุษย์ทุกคนมีศักยภาพและโอกาสที่จะสร้างความแตกต่าง – ดังที่เห็นทั่วโลก ทั้งครอบครัวของเรา ชุมชนของเรา และผู้อยู่ในแนวหน้า – เราสามารถยกระดับ เพื่อตระหนักถึงความสมบูรณ์ของคำสัญญานั้น
สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือ สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของทุกคนทั่วโลก และการหาทางออกสำหรับปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดในครั้งนี้ ในขณะที่เราทุกคนมีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงโลก และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม เรากำลังโฟกัสไปที่บทบาทใหม่นี้ เพื่อทำความเข้าใจว่าเราสามารถมีส่วนร่วมได้อย่างไร
ถึงแม้ว่าคุณจะไม่เห็นเราที่นี่ แต่งานก็ยังดำเนินการต่อไป ขอบคุณชุมชนแห่งนี้ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุน แรงบันดาลใจ และการมุ่งมั่นแบ่งปันเพื่อสิ่งที่ดีในโลก หวังว่าจะได้พบกันใหม่เร็วๆ นี้ โปรดรักษาสุขภาพของตนเอง และผู้อื่นด้วย
ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนเป็นต้นไป ทั้งสองพระองค์สามารถทำงานใหม่ หารายได้อย่างเป็นอิสระ และไม่สามารถใช้คำนำหน้าว่า เจ้า(Royal) รวมถึงไม่สามารถใช้ตราสัญลักษณ์ Sussex Royal เพื่อเป็นช่องทางทำการตลาด ในผลิตภัณฑ์หรือแบรนด์ต่างๆ และไม่ใช้คำนำหน้านามพระยศเจ้าฟ้า
ท่ามหลางสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่การกระจายตัวของเชื้อเรียกว่าเข้าขั้นวิกฤตเลยก็ว่าได้ ความรุนแรงของการระบาด ส่งผลกระทบไปทั่วโลก ทั้งด้านเศรษฐกิจ ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คน สุขภาพ ทั้งด้านจิตใจและร่างกายของผู้คนถูกบั่นทอนลง. ทั่วโลกตื่นตระหนก ผู้คนตกงาน ขาดแคลนของใช้ที่จำเป็นต่อการกำรงค์ชีวิตและป้องกันโรคที่กำลังระบาด.
แต่ท่ามกลางวิกฤตอันเลวร้าย เราก็ได้เห็นน้ำใจของเพื่อนมนุษย์ ยกตัวอย่างคลิปนี้ที่ถูกแชร์ผ่านเฟสบุ๊คเพจ เสียงประชาชน คนภูเก็ต Phuket People’s Voice ระบุว่า “คนไทยดูเป็นตัวอย่าง….เรื่องราวดีๆๆ
คลิปนี้ในประเทศเยอรมัน ประชาชนต่างนำของกินของใช้ออกมาวางแบ่งให้กัน ประเทศชาติก็ไม่ต้องเสียงบประมาณแผ่นดิน สังคมที่แบ่งปันกัน พัฒนาแล้วในด้านจิตใจ ขณะที่คนไทยกักตุนจนของแพงและหายากคนเยอรมันกลับแจกจ่ายด้วยจิตเมตตาที่น่าคารวะยกย่อง”
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง