กระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศถึงการดำเนินการกับ ร้านค้าออนไลน์ไม่แสดงราคาขาย 57 ราย โดยมีการส่งเรื่องให้มีการตามตัว และปิดหน้าเพจไปบ้างแล้ว (1 ก.ค. 2565) กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ได้ทำการเปิดเผยสถิติการร้องเรียนเรื่องการค้าขายสินค้าออนไลน์ โดยพบว่าในจำนวนเรื่องที่เข้ามานั้น มี ร้านค้าออนไลน์ไม่แสดงราคาขาย ด้วยกันถึง 57 ราย ซึ่งในระหว่างนี้ได้มีการประสานงานกับทางตำรวจในการตามตัว พร้อมทั้งกับทางแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในการปิดช่องทางจำหน่ายไปบ้างแล้ว
ร.ต.จักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน
เปิดเผยว่า ตั้งแต่เดือนม.ค.–25 ก.ค.2565 กรมฯ ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ จำนวน 837 ราย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบแล้ว 623 ราย ปรากฏว่าเป็นการกระทำผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ในข้อหาไม่แสดงราคาจำหน่ายสินค้า จำนวน 57 ราย ส่วนใหญ่เป็นการจำหน่ายสินค้าประเภทเสื้อผ้าและรองเท้าแฟชั่น ซึ่งได้ทำการเปรียบเทียบปรับทุกราย อัตราโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท
ส่วนกรณีที่ตรวจสอบไม่พบเจ้าของเพจผู้ถูกร้องเรียน กรมฯ ได้ร่วมกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เพื่อส่งข้อมูลเพจที่ถูกร้องเรียนและเข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนตรวจสอบหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ขณะเดียวกัน ได้ร่วมกับ Meta Platform, Inc. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการออนไลน์ช่องทาง Facebook และ Instagram เพื่อส่งข้อมูลโพสต์จำหน่ายสินค้าผ่าน Facebook ที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายให้ดำเนินการปิดกั้นเนื้อหาโพสต์ดังกล่าว ซึ่งตั้งแต่ม.ค.–25 ก.ค.2565 ได้ทำการปิดกั้นเนื้อหาโพสต์ที่เข้าข่ายกระทำผิดกฎหมายไปแล้ว จำนวน 766 โพสต์ จาก 37 เพจ โดยโพสต์ที่ถูกปิดกั้นเนื้อหาแล้วจะไม่สามารถเปิดดูโพสต์ดังกล่าวในประเทศไทยได้อีกต่อไป
ร.ต.จักรา กล่าวว่า “กรมฯ ได้ให้ความสำคัญกับการดำเนินการตามข้อร้องเรียน เพื่อรักษาความเป็นธรรมให้กับประชาชนผู้บริโภค โดยเฉพาะปัจจุบันที่ประชาชนนิยมหันมาซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หากฝ่าฝืน จะตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่วนประชาชนหากพบเห็นการจำหน่ายสินค้าออนไลน์โดยไม่แสดงราคาจำหน่าย หรือจำหน่ายราคาสูงเกินสมควร สามารถแจ้งสายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 หรือเว็บไซต์ www.dit.go.th จะดำเนินการตามกฎหมายถึงที่สุด”
สลิปปลอมระบาด แม่ค้าระวัง ดูวิธีปป้องกันที่นี่ ก่อนสูญเงินไม่รู้ตัว
เตือนภัย สลิปปลอมระบาด ธนาคารแห่งประเทศไทย เปิดวิธีป้องกัน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อ ด้านผู้ใช้เฟซบุ๊ก เผย มีโปแกรมปลอมสลิป ปลอมได้ตั้งแต่ วันที่ เวลา ไปถึง ชื่อบัญชีที่รับเงิน เตือนภัย สลิปปลอมระบาดหนัก โดยเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคมที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกให้ข้อมูลข้อมูลแจ้งเตือนประชาชน ระวังตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพหลอกใช้เอกสารการเงินหรือใบยืนยันการเงินปลอม เพื่อซื้อสินค้าและบริการ
ทั้งนี้การออกมาให้ข้อมูลสิลปปลอมระบาดของธนาคารแห่งประเทศไทย ผ่านช่องทางโซเชียลของธนาคารเองนั้น นอกจากจะอธิบายถึง 2 วิธีในการตรวจสอบและป้องกันภัยจากกลุ่มผู้ไม่หวังดีแล้ว
ข้อมูลที่ ทางเพจธนาคารแห่งประเทศไทย ได้แชร์โพสต์ต้นทางมาจากผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ยังทำให้ทราบข้อมูลพฤติกรรมของคนร้ายซึ่งมีการใช้ โปรแกรมปลอมสลิป สามารถเปลี่ยนแปลงข้อมูลได้หมด ไม่วาจะเป็น วันที่ , เวลา , รหัสอ้างอิง , ชื่อบัญชีที่โอน , เลขบัญชีที่โอน , เลขบัญชีที่รับเงิน , ชื่อบัญชีที่รับเงิน หรือกระทั่ง จำนวนเงิน
เตือนภัยสลิปปลอม อึ้ง มีโปรแกรมปลอมสลิปตั้งแต่วันที่ไปถึงชื่อบัญชีผู้รับ
โดยข้อมูลจากผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Sornphet Wutthikornchaisakul คำเตือนสลิปปลอม โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกวัน ผมไปเจอโพสต์ของพี่คนนึงที่ได้แชร์ไว้ แต่หน้ามันรีเฟรชแล้วหายไป ผมเลยได้แฝงตัวใน “กลุ่มสายเทา Marketing” แล้วก็ไปเจอโพสต์นี้จริงๆ
มันเป็นโปรแกรมปลอมสลิป! มันเปลี่ยนได้หมดเลย วันที่ เวลา, รหัสอ้างอิง, ชื่อบัญชีที่โอน, เลขบัญชีที่โอน, เลขบัญชีที่รับเงิน, ชื่อบัญชีที่รับเงิน และ จำนวนเงิน น่ากลัวมากนะครับ เตือนแม่ค้า พ่อค้าทุกคน เวลาลูกค้าโอน ให้รอการแจ้งเตือน / sms / notice app แจ้งเตือนตอนเงินเข้าก่อนนะครับ อย่าพึ่งดูที่สลิป ไว้ใจไม่ได้ ที่ตกใจคือดูในคอมเมนต์มีคนสนใจเยอะเลย
ไม่น่าใช่สายเทาแล้ว นี่น่าจะสายดำ #สลิปปลอม #เตือนภัยมิจฉาชีพ
2 วิธีง่ายๆ เช็กก่อนว่าเงินเข้าบัญชีจริง
สำหรัลวิธีตรวจสอบสลิปลอม สามารถทำตามได้ง่ายๆ ตาม 2 ขั้นตองด้านล่างนี้
ใช้บริการแจ้งเตือนของธนาคาร ซึ่งจะแจ้งเตือนเมื่อมียอดเงินเข้าบัญชี สามารถนำไปเทียบยอดเงินกับสลิปได้
สแกน QR CODE บนสลิปโอนเงินแบบ E-Slip สามารถตรวจสอบ ชื่อผู้โอน จำนวนเงิน วันและเวลาที่โอนเงินได้ หากยอดเงินไม่ตรง หรือไม่สามารถตรวจสอบได้ ตั้งข้อสงสัยไว้ก่อนเลยว่าเป็นสลิปปลอม
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง
